ก้าวคนละก้าว
“...ในค่ำคืนที่ฟ้าท้าทายใจคน อยู่ตรงนี้ และฉันยังคงก้าวไป
ยังคงมีรักแท้ นัยว่าแสงนำไปในคืนที่หลงทาง
กับที่ๆความฝันนั้นพร้อมเป็นเพื่อนตาย เส้นทางนี้ฉันยังมีจุดหมาย
ตราบใดที่ปลายท้องฟ้ามีแสงรำไร จะไปจนถึงแสงสุดท้าย....”
บทเพลงที่แสดงถึงความมุ่งมั่น ศรัทธา และจุดหมาย ของนักร้อง อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้แสลม กลายเป็นรูปธรรมให้คนไทยทั้งประเทศได้สัมผัส ใครจะนึกว่าวันหนึ่งตูน บอดี้แสลมที่เคยสร้างความสุขให้แฟนเพลงจะกระโดดลงจากเวที มาวิ่งอยู่บนถนนสายยาวของประเทศไทย เพื่อหารายได้ช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดแคลน
จากการขอความร่วมมือในการร่วมวิ่งการกุศลของผอ.โรงพยาบาลบางสะพาน กลายมาเป็นเป้าหมายของตูนที่ใหญ่กว่า ตูนไม่ใช่นักกีฬาไม่ใช่นักวิ่ง แต่เขาเลือกที่จะวิ่งระยะไกลเพื่อระดมทุนจากน้ำใจคนไทย เพราะเขาคิดว่าเป็นการใช้ต้นทุนที่น้อยที่สุดเพื่อให้เหลือเงินบริจาคมากที่สุด
ความกังวลก่อนที่จะเริ่มวิ่ง มิใช่เรื่องสภาพร่างกาย ความเหนื่อยล้า การบาดเจ็บ แต่เป็นความกังวลว่าสังคมจะมองเห็นเจตนารมณ์ของเขาว่าเป็นการทำดีเอาหน้า ซึ่งเขาก็ได้รับการแนะนำว่า “หากคิดจะทำ จงก้าวข้ามคำวิจารณ์” ซึ่งเขาก็ก้าวข้ามมันมาแล้ว จนเกิดความสำเร็จครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559-10 ธันวาคม 2559 ระยะทาง 400 เมตร จากกรุงเทพฯ ถึงบางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ จำนวนวันที่วิ่ง 10 วัน ได้ยอดเงินบริจาค ถึง 85 ล้านบาท เสมือนเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ในการวิ่งจากใต้สุดถึงเหนือสุดประเทศไทย จนหลายคนไม่เชื่อว่านักร้องร่างเล็กอย่างตูนจะทำได้ตามที่ตั้งใจ
ระยะทาง 2,215.40 กิโลเมตร จากอ.เบตง จ.ยะลา ถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ด้วยเป้าหมายการวิ่งเพียง 55 วัน เพื่อรวมน้ำใจจากคนไทย เพียงคนละ 10 บาท เพื่อให้ได้ยอดบริจาค 700 ล้านบาท ตามที่ตูนคิดไว้ เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลศูนย์ 9 แห่ง โรงพยาบาลประจำจังหวัดน่าน 1 แห่ง และโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ รวมเป็น 11 โรงพยาบาล ซึ่งตูนได้เข้าไปเยี่ยมสำรวจถึงความขาดแคลนด้วยตนเอง
ระยะทางที่ยาวไกลที่ตูนและทีมงานต้องก้าวไปให้ถึงตามกำหนด พบกับความยากหลายด้านทั้งเรื่องสภาพร่างกายที่มีระยะเวลาพักเพียงสั้นๆ การวิ่งที่ต้องหยุดถ่ายรูป ทักทายกับคนที่คอยให้กำลังใจ บางครั้งถึงกับทำให้เขาบาดเจ็บ แต่ตูนก็ยังยิ้มด้วยความยินดี และเข้าไปหาเกือบทุกคนที่เขาสามารถทำได้
1 พฤศจิกายน 2560 - 25 ธันวาคม 2560 ช่วงเวลาที่ท้าทายตูนและทีมก้าวคนละก้าว พวกเขาทำงานอย่างหนัก มีการปรับเปลี่ยนแผนตลอดเวลา นักวิ่งสมทบ ทีมแพทย์ พยาบาล ต้องคอยดูแลร่างกายของตูนให้พร้อมก้าวต่อไปจนถึงปลายทาง บางครั้งที่หลายคนติดตามข่าวถึงกับน้ำตาไหลเพราะซึ้งถึงน้ำใจของพวกเขาที่ทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ
แสงสุดท้ายของวันที่ 25 ธันวาคม บริเวณด่านแม่สาย ตูนและทีมงานก้าวสู่จุดหมาย ทุกคนมีรอยยิ้ม ตูนมีความสุขที่ได้ทำเพื่อคนอื่นในฐานะนักร้องคนหนึ่ง การวิ่งได้ตามเป้าหมายที่กำหนดระยะเวลา 55 วัน ยอดเงินบริจาคที่ทะลุร้อยกว่าล้าน ตูนบอกว่า เป็นเพราะคนไทยทั้งประเทศที่ส่งพลังบวกมาให้ ความสำเร็จนี้ นอกจากระยะทาง และเงินบริจาคแล้ว เขายังอยากเห็นทุกคนส่งกำลังใจให้คุณหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ที่ทำงานหนักท่ามกลางความกดดัน และการวิ่งครั้งนี้ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนหันมาออกกำลังกายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษา
ความฝันของตูนอีกอย่างหนึ่งในการวิ่งใต้จรดเหนือ คือ การได้เป็น “คนไทยคนแรกที่วิ่งจากใต้สุดถึงเหนือสุดของประเทศไทยสำเร็จ” ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นภาพที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่วันนี้เป็นไปแล้วและเป็นไปด้วยความงดงาม ซึ่งบันทึกไทย Thailand Records ได้เก็บสถิติและบันทึกการวิ่งครั้งนี้ตามมาตรฐานสากลอย่างเป็นทางการ
“อยากที่จะก้าวไปให้ถึงที่สุด เท่าที่พลังของเราและทุกๆ คนจะมี
เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่า...แค่ก้าวเล็กๆ จากทุกคน เมื่อรวมกันแล้ว..
มันจะสามารถกลายเป็น “ก้าวยาวๆ” ขึ้นมาได้จริง
“ตูน บอดี้แสลม”